ทำงานกับระบบไฟฟ้า ทำไมต้องใส่หมวกนิรภัย

by admin
31 views

การทำงานกับระบบไฟฟ้าเป็นงานที่มีความเสี่ยงสูง ไม่ว่าจะเป็นงานติดตั้งระบบสายไฟ งานซ่อมบำรุงอุปกรณ์ไฟฟ้า หรืองานตรวจสอบระบบในโรงงานอุตสาหกรรม สิ่งที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคนต้องตระหนักคือ “ความปลอดภัยต้องมาก่อน” โดยเฉพาะอุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคลหรือ PPE (Personal Protective Equipment) ซึ่ง “หมวกนิรภัย” ถือเป็นหนึ่งในอุปกรณ์พื้นฐานที่ขาดไม่ได้

หมวกนิรภัย คืออะไร ?

หมวกนิรภัย (Safety Helmet) เป็นอุปกรณ์สวมศีรษะที่ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันแรงกระแทก วัตถุตกจากที่สูง และการสัมผัสกับไฟฟ้า ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน โดยหมวกนิรภัยที่ใช้ในงานระบบไฟฟ้า ต้องมีคุณสมบัติพิเศษในการป้องกันกระแสไฟฟ้า และเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย เช่น ANSI Z89.1 (สหรัฐอเมริกา) หรือ EN 397 (ยุโรป)

สาเหตุต้องใส่หมวกนิรภัย เมื่อทำงานกับไฟฟ้า

สาเหตุต้องใส่หมวกนิรภัย เมื่อทำงานกับไฟฟ้า

หลายคนอาจสงสัยว่าทำให้ช่างไฟ วิศวกร หรือพนักงานที่ทำงานเกี่ยวข้องกับไฟฟ้า ต้องใส่หมวกนิรภัยด้วย วันนี้เราจะพามาดูเหตุผลที่ต้องมี หมวกนิรภัย ก่อนปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้า

1. ป้องกันอุบัติเหตุจากวัตถุตกหล่น

ในหลายกรณีที่ต้องทำงานใต้ตู้ไฟฟ้า หรือในพื้นที่ที่มีการซ่อมบำรุงชั้นสูง วัตถุอาจตกลงมาโดนศีรษะได้ หมวกนิรภัยจึงช่วยลดแรงกระแทกที่อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บรุนแรง หรือเสียชีวิต

2. ป้องกันไฟฟ้าช็อตจากการสัมผัสทางศีรษะ

ในบางสถานการณ์ ผู้ปฏิบัติงานอาจต้องเข้าใกล้อุปกรณ์ที่ยังมีกระแสไฟฟ้าอยู่ เช่น บัสบาร์ (Busbar) หรือสายไฟแรงสูง ทำให้เสี่ยงต่อการถูกไฟฟ้าช็อตได้ หมวกนิรภัยที่ออกแบบให้ป้องกันไฟฟ้าได้ (เช่น Class E – Electrical) จะช่วยป้องกันกระแสไฟฟ้าที่อาจวิ่งผ่านศีรษะไปสู่ร่างกายได้

3. ป้องกันการเผาไหม้จากประกายไฟ

เมื่อมีการเชื่อมไฟฟ้า หรือตัดต่อระบบไฟ อาจเกิดประกายไฟหรือความร้อนสูง หมวกนิรภัยที่ทำจากวัสดุกันไฟจะช่วยลดความเสี่ยงจากการไหม้ศีรษะหรือเส้นผม

4. ช่วยเพิ่มการมองเห็นในพื้นที่อับแสง

หมวกนิรภัยหลายรุ่นสามารถติดไฟฉายหรือสติ๊กเกอร์สะท้อนแสงได้ ทำให้เพื่อนร่วมงานสามารถมองเห็นกันได้ชัดเจนในที่มืด ลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุจากการชนหรือสะดุดกัน

อ่านเพิ่มเติม : PPE สำหรับงานไฟฟ้า มีอะไรบ้าง

ลักษณะหมวกนิรภัย สำหรับงานไฟฟ้า

หมวกนิรภัยที่เหมาะสำหรับงานไฟฟ้า ควรมีลักษณะอย่างไร

  • ทำจากวัสดุที่ไม่เป็นสื่อนำไฟฟ้า เช่น โพลีเอทิลีน (HDPE) หรือ ABS

  • ได้รับการรับรองมาตรฐาน Class E (สามารถป้องกันแรงดันไฟฟ้าได้สูงถึง 20,000 โวลต์ ตามมาตรฐาน ANSI Z89.1)

  • มีสายรัดคางหรือสายรองศีรษะที่แน่นกระชับ ไม่หลุดง่าย

  • มีฉลากระบุอายุการใช้งาน และวันผลิตอย่างชัดเจน (อายุการใช้งานมักอยู่ที่ 2-5 ปี ขึ้นอยู่กับรุ่น)

กฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับการสวมหมวกนิรภัย

ในประเทศไทย พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 ได้กำหนดให้นายจ้างต้องจัดหาอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลให้กับลูกจ้าง และลูกจ้างต้องสวมใส่อุปกรณ์ดังกล่าวขณะปฏิบัติงาน รวมถึงหมวกนิรภัยด้วย หากฝ่าฝืนอาจมีโทษปรับทั้งนายจ้างและลูกจ้าง

นอกจากอุปกรณ์ที่นายจ้างต้องเตรียมพร้อมแล้วตามกฎหมาย พนักงานที่เกี่ยวข้องกับการทำงานกับไฟฟ้า ต้องเข้าอบรมผ่าน หลักสูตรอบรมไฟฟ้า ทุกคน พร้อมนำใบเซอร์ที่ได้จากศูนย์ฝึกอบรมยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ภายใน 30 วันหลังผ่านอบรม

สรุป

หมวกนิรภัยไม่ได้เป็นเพียงเครื่องแต่งกาย แต่เป็น “เกราะป้องกันชีวิต” ของผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้าโดยตรง การสวมใส่อย่างสม่ำเสมอ และเลือกใช้หมวกที่ได้มาตรฐาน เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน

อย่ารอให้เกิดอุบัติเหตุก่อนจึงจะตระหนักถึงความสำคัญของหมวกนิรภัย เพราะในงานระบบไฟฟ้า ความผิดพลาดเพียงเสี้ยววินาทีอาจหมายถึงชีวิต

ติดต่ออบรมไฟฟ้า โทรเลย: (064) 958 7451 คุณแนน


อ้างอิง

  1. ANSI/ISEA Z89.1-2014 – American National Standard for Industrial Head Protection

  2. EN 397:2012+A1:2012 – European Standard for Industrial Safety Helmets

  3. กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน. (2554). พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน

  4. Occupational Safety and Health Administration (OSHA) – Electrical Safety Standards

  5. IEC 61482 – Live working – Protective clothing against the thermal hazards of an electric arc


บทความที่น่าสนใจ