เคยไหม กำลังใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่ดี ๆ แล้วไฟดับ เพราะฟิวส์ขาดอีกแล้ว! หลายคนอาจคิดว่าแค่เปลี่ยนฟิวส์ใหม่ก็พอ แต่รู้หรือไม่ว่าฟิวส์ที่ขาดบ่อย ๆ อาจเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาไฟฟ้าที่ซ่อนอยู่ ซึ่งหากปล่อยไว้ อาจนำไปสู่ความเสียหายของเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือแย่กว่านั้นอาจเกิดไฟฟ้าลัดวงจรจนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ฟิวส์ ทำหน้าที่ป้องกันระบบไฟฟ้าจากกระแสไฟเกิน หากมันขาดซ้ำ ๆ นั่นหมายความว่ากำลังมีบางอย่างผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นระบบเดินสายไฟที่มีปัญหา เครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟเกินกำลัง หรือแม้แต่ความเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ภายในบ้าน
อย่ามองข้ามสัญญาณเตือนเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ มาไขข้อสงสัยไปด้วยกันว่าฟิวส์ขาดบ่อย ๆ บอกอะไรเราได้บ้าง และคุณควรรับมือกับมันอย่างไร ก่อนที่ปัญหาจะบานปลาย
ฟิวส์คืออะไร และทำหน้าที่อย่างไร?
ฟิวส์ ภาษาอังกฤษ ” Fuse ” คือ อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ทำหน้าที่ป้องกันกระแสไฟฟ้าเกินหรือไฟฟ้าลัดวงจร โดยจะมีเส้นลวดโลหะภายในที่ออกแบบให้หลอมละลายเมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่านเกินค่าที่กำหนด ซึ่งจะช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับอุปกรณ์ไฟฟ้าและระบบสายไฟในบ้านหรืออาคาร
หลักการทำงานของฟิวส์
-
วัสดุในฟิวส์: ฟิวส์ประกอบด้วยเส้นลวดหรือแถบโลหะที่มีจุดหลอมเหลวที่ต่ำ เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่านฟิวส์ วัสดุในฟิวส์จะเกิดความร้อนตามกระแสที่ไหลผ่าน
-
การหลอมเหลวของวัสดุ: เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลเกินขีดจำกัดที่กำหนด (ปกติจะเกินค่าที่ฟิวส์ออกแบบมา) วัสดุในฟิวส์จะได้รับความร้อนมากจนถึงจุดหลอมเหลว และจะเกิดการขาดหรือหลอมตัว ซึ่งทำให้การไหลของกระแสไฟฟ้าถูกหยุดทันที
-
การตัดวงจร: การหลอมเหลวหรือขาดของวัสดุในฟิวส์จะทำให้วงจรไฟฟ้าถูกตัดขาดจากแหล่งจ่ายไฟ ซึ่งจะป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือวงจรจากการได้รับกระแสไฟฟ้าที่เกินพิกัด
-
การเลือกขนาดฟิวส์: ฟิวส์จะต้องเลือกให้เหมาะสมกับวงจรไฟฟ้า เช่น ขนาดกระแสไฟฟ้าที่ใช้งาน และการใช้วัสดุที่มีความต้านทานที่เหมาะสมกับการใช้งานของวงจร เพื่อให้ฟิวส์ทำงานได้อย่างถูกต้องเมื่อเกิดเหตุการณ์กระแสไฟฟ้าเกิน
ฟิวส์ขาด ดูยังไง?
เมื่อเกิดเหตุผิดปกติของระบบไฟฟ้า หลายคนอาจยังไม่ทราบว่าเกิดจากฟิวส์ขาดเพราะไม่รู้ว่า ฟิวส์ขาดมันเป็นยังไง วันนี้เราได้รวมการสังเกตลักษณะง่ายๆที่บ่งบอกว่าฟิวส์ขาดแล้ว
1. ไฟฟ้าดับบางจุด
หากฟิวส์ที่ขาดเป็นส่วนที่จ่ายไฟให้กับอุปกรณ์หรือพื้นที่บางส่วน จะพบว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าในบริเวณนั้นไม่ทำงาน หรือมีบางจุดที่ไม่มีไฟฟ้าใช้งาน ในขณะที่จุดอื่นๆ ยังคงใช้งานได้ปกติ
ตัวอย่าง:
-
- เครื่องใช้ไฟฟ้าบางตัวในบ้านดับ แต่เครื่องอื่นยังใช้งานได้
- ไฟบางดวงดับ ในขณะที่ห้องอื่นๆ ยังมีไฟสว่าง
2. ไฟฟ้าดับทั้งระบบ
หากฟิวส์ที่ขาดเป็นฟิวส์หลักของระบบไฟฟ้า อาจทำให้ไฟฟ้าดับทั้งบ้านหรือทั้งอาคารได้ ซึ่งมักเกิดจากการใช้ไฟเกินพิกัดหรือลัดวงจรในระบบ
ตัวอย่าง:
-
- ไฟทั้งบ้านดับพร้อมกันโดยไม่มีการแจ้งเตือนจากการไฟฟ้า
- อาคารพาณิชย์หรือโรงงานไฟดับกะทันหันทั้งระบบ
3. มีเสียงดังหรือประกายไฟ
ในบางกรณีที่กระแสไฟฟ้าสูงเกินกว่าฟิวส์จะรับไหว ฟิวส์อาจขาดอย่างรุนแรงจนเกิดเสียงคล้ายเสียง “ปัง” หรือเสียงคล้ายระเบิดเล็กๆ พร้อมกับประกายไฟที่จุดติดตั้งฟิวส์
ตัวอย่าง:
-
- ได้ยินเสียง “ปุ๊ง!” หรือ “แป๊ะ!” จากตู้ไฟ
- เห็นประกายไฟที่จุดติดตั้งฟิวส์
4. ฟิวส์มีรอยไหม้หรือเปลี่ยนสี
ฟิวส์ที่ขาดอาจมีร่องรอยการเผาไหม้ เปลี่ยนสีจากเดิมเป็นสีน้ำตาลเข้มหรือดำ หรืออาจมีคราบเขม่าที่ปลอกฟิวส์หรือบริเวณใกล้เคียง
ตัวอย่าง:
-
- ฟิวส์แก้วมีลวดขาดข้างใน หรือมีคราบดำภายใน
- ฟิวส์แบบตะกั่วมีรอยหลอมละลายที่จุดเชื่อมต่อ
วิธีตรวจสอบฟิวส์ขาด เชิงเทคนิค
หากสังเกตพบอาการเหล่านี้ ควรตรวจสอบฟิวส์อย่างละเอียด โดยสามารถใช้วิธีต่อไปนี้:
- ตรวจสอบด้วยสายตา: ดูว่าฟิวส์มีรอยไหม้ ลวดขาด หรือสีเปลี่ยนไปหรือไม่
- ใช้มัลติมิเตอร์วัดค่าความต่อเนื่อง (Continuity Test): ถ้าฟิวส์ขาด ค่าที่อ่านได้จะเป็น “0L” หรือไม่มีการไหลของกระแสไฟ
- เปลี่ยนฟิวส์ใหม่: หากเปลี่ยนแล้วไฟฟ้ากลับมาใช้งานได้ แสดงว่าฟิวส์เก่าขาดจริง
ข้อควรระวัง : หากฟิวส์ขาดบ่อยหรือขาดโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน อาจเกิดจากปัญหาไฟฟ้าลัดวงจรหรือระบบไฟฟ้ามีโหลดเกิน ควรให้ช่างไฟฟ้าที่มีความเชี่ยวชาญตรวจสอบเพื่อความปลอดภัย
สาเหตุหลักที่ทำให้ฟิวส์ขาด
1. กระแสไฟฟ้าเกินกำหนด (Overcurrent)
ฟิวส์แต่ละตัวถูกออกแบบให้รองรับกระแสไฟฟ้าในระดับที่แน่นอน หากมีอุปกรณ์ไฟฟ้าหลายชิ้นเปิดใช้งานพร้อมกันมากเกินไป หรือมีอุปกรณ์ที่กินไฟสูงเกินกว่าที่ระบบรองรับ ฟิวส์ก็จะขาดเพื่อป้องกันความร้อนสะสมที่อาจทำให้สายไฟไหม้
วิธีแก้ไข:
- ตรวจสอบว่ามีอุปกรณ์ไฟฟ้าทำงานพร้อมกันมากเกินไปหรือไม่ และกระจายโหลดไปยังวงจรอื่น
- ใช้ฟิวส์ที่มีขนาดเหมาะสมกับระบบไฟฟ้า
2. ไฟฟ้าลัดวงจร (Short Circuit)
ไฟฟ้าลัดวงจรเกิดขึ้นเมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผิดเส้นทาง เช่น สายไฟที่เปลือยสัมผัสกัน หรือเกิดความชื้นสะสมในระบบ ทำให้เกิดการไหลของกระแสไฟฟ้าสูงผิดปกติและทำให้ฟิวส์ขาดทันที
วิธีแก้ไข:
- ตรวจสอบสายไฟในจุดที่เกิดปัญหา และซ่อมแซมหากมีสายไฟเปลือยหรือเสียหาย
- ตรวจสอบปลั๊กไฟและเต้าเสียบว่ามีรอยไหม้หรือไม่
3. ฟิวส์เสื่อมสภาพ
ฟิวส์ที่ใช้งานมานานอาจเสื่อมสภาพและไวต่อกระแสไฟฟ้าเกินกว่าปกติ ส่งผลให้ขาดง่ายกว่าปกติ แม้ว่าระบบไฟฟ้าจะไม่มีปัญหา
วิธีแก้ไข:
- เปลี่ยนฟิวส์ใหม่ที่มีคุณภาพดี และมีค่ากระแสไฟฟ้า (Ampere Rating) ที่เหมาะสมกับการใช้งาน
4. ใช้ฟิวส์ที่ไม่ถูกต้อง
การใช้ฟิวส์ที่มีค่ากระแสไฟฟ้าสูงเกินไปอาจทำให้ระบบไฟฟ้าขาดความปลอดภัย ในขณะที่ฟิวส์ที่มีค่าต่ำเกินไปอาจขาดบ่อย ๆ โดยไม่จำเป็น
วิธีแก้ไข:
- ตรวจสอบค่ากระแสไฟฟ้าที่แนะนำจากผู้ผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้า
- ใช้ฟิวส์ที่ตรงกับมาตรฐานของวงจรไฟฟ้า
5. ปัญหาในระบบสายไฟ
หากสายไฟมีขนาดเล็กเกินไปเมื่อเทียบกับปริมาณกระแสที่ไหลผ่าน จะทำให้เกิดความร้อนสะสมและอาจทำให้ฟิวส์ขาดบ่อย
วิธีแก้ไข:
- ให้ช่างไฟฟ้ามืออาชีพตรวจสอบและเปลี่ยนสายไฟให้เหมาะสมกับภาระไฟฟ้า
6. อุปกรณ์ไฟฟ้ามีปัญหา
อุปกรณ์ไฟฟ้าบางชนิด เช่น เครื่องทำน้ำอุ่น หรือมอเตอร์ไฟฟ้า อาจมีการใช้พลังงานไฟฟ้าสูงผิดปกติเนื่องจากการเสื่อมสภาพหรือความเสียหายภายใน
วิธีแก้ไข:
- ลองถอดปลั๊กอุปกรณ์และดูว่าฟิวส์ยังขาดอยู่หรือไม่ หากไม่ขาด แสดงว่าอุปกรณ์อาจมีปัญหา
- ซ่อมหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ที่อาจเป็นสาเหตุของปัญหา
วิธีป้องกันไม่ให้ฟิวส์ขาดบ่อย ๆ
1. ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีคุณภาพดีและได้มาตรฐาน : เลือกใช้อุปกรณ์ที่ผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรม เพื่อป้องกันปัญหากระแสไฟฟ้าเกินและไฟฟ้าลัดวงจร
2. กระจายโหลดไฟฟ้าให้เหมาะสม : หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชิ้นพร้อมกันในวงจรเดียวกัน โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานสูง เช่น เครื่องทำน้ำอุ่น แอร์ หรือเตาอบไฟฟ้า
3. ตรวจสอบระบบไฟฟ้าเป็นระยะ : ควรให้ช่างไฟฟ้าตรวจสอบระบบไฟฟ้าในบ้านเป็นประจำทุกปี เพื่อตรวจสอบว่ามีปัญหาหรือไม่
4. ใช้เบรกเกอร์ร่วมกับฟิวส์ : ในบางกรณี การติดตั้งเซอร์กิตเบรกเกอร์ (Circuit Breaker) จะช่วยให้การป้องกันไฟฟ้าเกินทำได้ดียิ่งขึ้น และสามารถรีเซ็ตกลับมาใช้งานได้ง่ายกว่าฟิวส์ที่ต้องเปลี่ยนใหม่
สำหรับระบบไฟฟ้าในโรงงาน ถ้าพนักงานต้องทำงานที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้า ตามกฎหมายแล้วนายจ้างต้องจัดหลักสูตรอบรมไฟฟ้า ให้กับลูกจ้างซึ่งจะได้เรียนรู้ความปลอดภัยในการทำงานกับไฟฟ้า ซึ่งจะทำให้เข้าใจเกี่ยวกับระบบไฟฟ้ามากกว่าคนทั่วไป
วิธีการเลือกฟิวส์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน
การเลือกฟิวส์ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันความเสียหายของอุปกรณ์และระบบไฟฟ้า ควรพิจารณาปัจจัยดังต่อไปนี้:
- ค่าพิกัดกระแสไฟฟ้า (Current Rating) : เลือกฟิวส์ที่มีค่าพิกัดกระแสไฟฟ้าสูงกว่ากระแสใช้งานปกติเล็กน้อย แต่ไม่เกินค่าที่กำหนดโดยอุปกรณ์ไฟฟ้า
- ค่าพิกัดแรงดันไฟฟ้า (Voltage Rating) : ฟิวส์ต้องมีค่าพิกัดแรงดันที่สูงกว่าหรือเท่ากับแรงดันของวงจรที่ใช้งาน
- ประเภทของกระแสไฟฟ้า (AC หรือ DC) : เลือกฟิวส์ที่ออกแบบมาสำหรับกระแสไฟฟ้าประเภทนั้นๆ เนื่องจากการดับอาร์กไฟฟ้าในระบบ AC และ DC มีความแตกต่างกัน
- ลักษณะการตอบสนองของฟิวส์ (Blow Characteristics) : ฟิวส์แบบเร็ว (Fast-Acting Fuse) ใช้กับอุปกรณ์ที่ต้องการการป้องกันอย่างรวดเร็ว เช่น วงจรอิเล็กทรอนิกส์ และ ฟิวส์แบบช้า (Slow-Blow Fuse) ใช้กับอุปกรณ์ที่มีกระแสไฟฟ้ากระชากชั่วขณะ เช่น มอเตอร์และหม้อแปลง
- สภาพแวดล้อมการใช้งาน : หากใช้ในพื้นที่ที่มีความชื้นสูงหรืออุณหภูมิสูง ควรเลือกฟิวส์ที่มีฉนวนและวัสดุที่ทนทานต่อสภาพแวดล้อม
- มาตรฐานและความปลอดภัย : ควรเลือกฟิวส์ที่ผ่านมาตรฐานสากล เช่น IEC, UL, หรือ ASTM เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัย
การเลือกฟิวส์ที่เหมาะสมไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าเสียหาย แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงจากไฟไหม้และอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากกระแสไฟฟ้าเกินได้อีกด้วย
สรุป
หากพบฟิวส์ขาดบ่อย ๆ ไม่ควรละเลย เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาร้ายแรงในระบบไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นกระแสไฟฟ้าเกิน ไฟฟ้าลัดวงจร หรือสายไฟและอุปกรณ์ที่เสื่อมสภาพ วิธีแก้ไขที่ดีที่สุดคือการตรวจสอบต้นเหตุของปัญหาและแก้ไขให้ตรงจุด พร้อมทั้งปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันเพื่อให้ระบบไฟฟ้าในบ้านหรืออาคารของคุณมีความปลอดภัยและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หากพบว่าฟิวส์ขาดซ้ำ ๆ โดยหาสาเหตุไม่ได้ ควรปรึกษาช่างไฟฟ้ามืออาชีพเพื่อความปลอดภัยของคุณและคนในบ้านครับ
สำหรับผู้ที่สนใจเรียนรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้งานระบบไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นลูกจ้างทั่วไป ช่าง หรือบุคคลทั่วไปที่สนใจจัดอบรมที่ ElecSafeTrain เรามีบริการจัดอบรม หลักสูตรอ้างอิงตามกฎหมาย สอนโดยวิทยากรที่มีประสบการสอนกว่า 10 ปี พร้อมมอบวุฒิบัตรหลังอบรม สามารถใช้ในการยืนยันผ่านการอบรมกับพนักงานความปลอดภัยได้
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ : อีเมล Sale@safetymember.net / โทร (064) 958 7451 คุณแนน
บทความที่น่าสนใจ
- สรุปอบรมไฟฟ้าตามกฎหมาย 2558 สำหรับลูกจ้าง
- ไฟฟ้าช็อตอันตรายแค่ไหน
- Lockout Tagout (LOTO) คืออะไร
- มาตรฐานความปลอดภัยในการทำงานเกี่ยวกับไฟฟ้า มีอะไรบ้าง