เปรียบเทียบระบบไฟฟ้า 1 เฟส กับ 3 เฟส การใช้งานจริงในโรงงาน

by admin
6 views

ระบบไฟฟ้า คือ หัวใจสำคัญของการดำเนินงานในบ้าน อาคารพาณิชย์ และโรงงานอุตสาหกรรม การเลือกใช้ระบบไฟฟ้าที่เหมาะสมไม่เพียงส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องจักรเท่านั้น แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อความปลอดภัย ความเสถียรของระบบ ค่าใช้จ่ายในระยะยาว และความต่อเนื่องของกิจกรรมภายในสถานประกอบการ

ในประเทศไทย ระบบไฟฟ้าที่ใช้งานโดยทั่วไปมีอยู่สองประเภทหลัก ได้แก่ ระบบไฟฟ้า 1 เฟส (Single Phase) และ ระบบไฟฟ้า 3 เฟส (Three Phase) ซึ่งแต่ละระบบมีข้อดี ข้อจำกัด และรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน

หลายๆคน ยังไม่ทราบว่าทั้ง 2 เฟสนี้ต่างกันยังไง วันนี้ผมจะพามาเปรียบเทียบระบบไฟฟ้าทั้งสองประเภทในเชิงเทคนิค โดยเน้นที่หัวข้อสำคัญอย่าง กำลังไฟฟ้า การกระจายโหลด ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น และความเหมาะสมในการนำไปใช้งานจริง โดยเฉพาะในบริบทของโรงงานและอาคาร เพื่อให้ผู้อ่านสามารถตัดสินใจเลือกระบบที่ตอบโจทย์ได้ทั้งในด้านประสิทธิภาพและความคุ้มค่าในระยะยาว

ความหมายของระบบไฟฟ้า 1 เฟส และ 3 เฟส

  • ระบบไฟฟ้า 1 เฟส (Single Phase)
    ใช้สายไฟ 2 เส้น คือ สายไฟ (Line) และ สายนิวทรัล (Neutral) โดยทั่วไปจ่ายไฟที่แรงดัน 220 โวลต์ เป็นระบบที่พบได้ในบ้านพักอาศัยทั่วไปหรืออาคารขนาดเล็ก

  • ระบบไฟฟ้า 3 เฟส (Three Phase)
    ใช้สายไฟ 4 เส้น คือ สายเฟส 3 เส้น (L1, L2, L3) และ สายนิวทรัล (N) จ่ายไฟแรงดัน 380 โวลต์ ระหว่างเฟส และ 220 โวลต์ ระหว่างเฟสกับนิวทรัล เป็นระบบที่นิยมใช้ในโรงงานหรืออาคารขนาดใหญ่ที่มีโหลดสูง

ตารางเปรียบเทียบความต่างระบบไฟฟ้า 1 เฟส กับ 3 เฟส

หัวข้อ ระบบไฟฟ้า 1 เฟส (Single Phase) ระบบไฟฟ้า 3 เฟส (Three Phase)
จำนวนสายไฟ สายไฟ 2 เส้น (Line + Neutral) สายไฟ 4 เส้น (3 Line + Neutral)
แรงดันไฟฟ้า 220 โวลต์ 380 โวลต์ (ระหว่างเฟส), 220 โวลต์ (เฟสกับนิวทรัล)
กำลังไฟฟ้า (Power) ต่ำ (เหมาะกับโหลดไม่เกิน 10 กิโลวัตต์) สูง (รองรับโหลดหลายร้อยกิโลวัตต์ขึ้นไป)
การกระจายโหลด โหลดอยู่ที่เฟสเดียว ทำให้กระแสสูงและไม่สมดุล โหลดกระจายระหว่าง 3 เฟส ทำให้ระบบสมดุลและปลอดภัยกว่า
ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น โอกาสเกิดโอเวอร์โหลดง่าย สายไฟร้อน เบรกเกอร์ทริป หากโหลดไม่สมดุลอาจเกิด “เฟสล้ม” หรือมอเตอร์เสียหายได้
การใช้งานมอเตอร์ ขับมอเตอร์ขนาดเล็กเท่านั้น (<2HP) ใช้กับมอเตอร์ขนาดใหญ่ได้ กำลังบิดสูงกว่า
เหมาะกับโรงงาน ไม่เหมาะกับโรงงานขนาดกลาง-ใหญ่ ใช้เฉพาะงานเบา เหมาะกับโรงงานทุกขนาด โดยเฉพาะที่มีเครื่องจักรหรือโหลดสูง
เหมาะกับอาคาร เหมาะกับบ้านพัก คอนโด ร้านค้า เหมาะกับอาคารสำนักงาน ห้าง โรงพยาบาล โรงแรม
ต้นทุนติดตั้ง ต้นทุนต่ำ ติดตั้งง่าย ต้นทุนสูงกว่าเล็กน้อย แต่คุ้มค่าระยะยาว
การบำรุงรักษา ง่าย ตรวจสอบรวดเร็ว ซับซ้อน ต้องใช้ช่างไฟฟ้าที่เชี่ยวชาญ

เลือกใช้งาน ระบบไฟฟ้า 1 เฟส กับ 3 เฟส

วิเคราะห์เชิงเทคนิคเพิ่มเติม

  • ระบบไฟฟ้า 1 เฟส เหมาะสำหรับระบบที่มีโหลดไม่เกิน 10 กิโลวัตต์ เช่น ไฟแสงสว่าง ทีวี ตู้เย็น แอร์บ้าน มักใช้ตามบ้านเรือนหรือร้านค้า หากใช้โหลดมากเกินไป จะเกิดความร้อนสะสมและตัดวงจรไฟฟ้าบ่อย

  • ระบบไฟฟ้า 3 เฟส ช่วยกระจายโหลดอย่างสมดุล จึงลดความร้อน ลดความเสียหายต่อสายไฟ และสามารถเดินระบบให้ประสิทธิภาพสูงสุด เหมาะกับโรงงานหรืออาคารที่มีเครื่องปรับอากาศ มอเตอร์ขนาดใหญ่ หรือระบบเครื่องจักรแบบต่อเนื่อง

สรุป

การเลือกใช้ ระบบไฟฟ้า 1 เฟส หรือ 3 เฟส ควรพิจารณาจาก ขนาดของโหลดไฟฟ้า ความต่อเนื่องของการใช้งาน และลักษณะของอาคารหรือโรงงาน โดยสรุป:

  • หากเป็น บ้านพักหรืออาคารขนาดเล็ก ใช้ระบบ 1 เฟสก็เพียงพอและประหยัด

  • หากเป็น อาคารสำนักงานขนาดใหญ่ โรงงาน หรือสถานที่ที่ใช้เครื่องจักรหรือมอเตอร์จำนวนมาก ควรเลือกใช้ระบบ 3 เฟส เพื่อรองรับการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และลดปัญหาระยะยาว

การตัดสินใจที่ถูกต้องตั้งแต่ต้น จะช่วยลดต้นทุนการซ่อมแซม เพิ่มความปลอดภัย และยืดอายุการใช้งานของระบบไฟฟ้าในระยะยาว


อ้างอิง

  1. การไฟฟ้านครหลวง. (2564). ความรู้เกี่ยวกับระบบไฟฟ้า 1 เฟส และ 3 เฟส.

  2. Schneider Electric Thailand. (2566). ความแตกต่างระหว่างระบบไฟฟ้าแบบ 1 เฟส และ 3 เฟส. เอกสารทางเทคนิคบริษัท.

  3. วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.). (2562). คู่มือระบบไฟฟ้ากำลังสำหรับอาคารและโรงงาน.

  4. Electrical Engineering Portal. (2023). “Single-phase vs. Three-phase Power Systems: What’s the Difference?


บทความที่น่าสนใจ

Elecsafetrain ศูนย์อบรมความปลอดภัยในการทำงานโดยเฉพาะความปลอดภัยในการทำงานกับไฟฟ้า การันตีคุณภาพจากลูกค้ากว่า 2000 องค์กร

ติดต่อ

บริษัท เซฟตี้เมมเบอร์ จำกัด

Copyright @2025  ElecSafeTrain Developed website and SEO by iPLANDIT